Tuesday, July 13, 2010

ธรณีวิทยาของอ่าวไทย (The Gulf of Thailand)

ธรณีวิทยาของอ่าวไทย (The Gulf of Thailand)
สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ผมขอเขียนบล็อกเรื่อง The Gulf of Thailand นะครับ พอดีเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว
ผมมีโอกาสได้เข้าสัมภาษณ์ Coop กับบริษัท Chevron แล้วเค้าก็ถามเกี่ยวกับ The Gulf of Thialand ครับ
แต่ผมก็ตอบไม่ได้ ก็เลยมาหาข้อมูล แล้วขอบอกต่อไว้ประดับความรู้กับเำพื่อนๆ แล้วกันนะครับ ^^

1. ลักษณะภูมิประเทศและภูมิสัณฐาน บริเวณอ่าวไทย (The Gulf of Thailand)
    อ่าวไทยหมายถึงบริเวณทะเลด้านตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งเปิดไปสู่ทะเลจีนใต้ ขอบเขตของอ่าวไทยตอนบนต่อเนื่องกับดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยาของ ที่ราบลุ่มภาคกลาง และชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ทิศตะวันตกติดต่อกับชายฝั่งทะเลภาคใต้ ส่วนทิศตะวันออกและทิศใต้ติดต่อเขตกับน่านน้ำของประเทศกัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย โดยมีเขตน่านน้ำห่างจากฝั่งทะเลของแต่ละประเทศ 12 ไมล์ทะเล
     Pradidtan and Dook (1992) กล่าวถึง การสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ว่าลักษณะภูมิประเทศของท้องทะเลในอ่าวไทยไม่ราบเรียบ แต่มีสัน (ridges) และแอ่ง (basins) มากมาย สันและแอ่งเหล่านี้วางตัวขนานกันไปในทางแนวเหนือ-ใต้ในลักษณะของ กราเบน (graben) และ half graben สันบริเวณเกาะกระ และจังหวัดนราธิวาสเป็นแนวแบ่งท้องทะเลอ่าวไทยออกเป็น 2 ด้าน คือ ด้านตะวันออก และด้านตะวันตก
     ด้านตะวันออกประกอบด้วยแอ่งที่สำคัญ 2 แอ่ง คือ แอ่งปัตตานี และแอ่งมาเลย์ ซึ่งตะกอนที่สะสมตัวในสองแอ่งนี้เป็นตะกอนพื้นทวีปในยุคเทอร์เชียรี มีความหนาประมาณ 4 กิโลเมตร แอ่งในบริเวณนี้ ส่วนใหญ่เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติ (gas field) ที่สำคัญของประเทศ เช่น แหล่งบงกช แหล่งจักรวาล แหล่งฟูนัน เป็นต้น ส่วนด้านตะวันตกของท้องทะเลอ่าวไทยประกอบด้วยแอ่งขนาดเล็กประมาณ 10 แอ่ง ตะกอนเทอร์เชียรี ที่สะสมตัวนั้นอยู่ในระดับตื้น มีความหนาประมาณ 300 เมตร แอ่งที่สำคัญและพบแหล่งปิโตรเลียมได้แก่ แอ่งชุมพรและแอ่งสงขลา เป็นต้น สําหรับแอ่งอื่นๆ ได้แก่ แอ่งหัวหิน แอ่งประจวบคีรีขันธ์ แอ่งกระด้านตะวันตก และแอ่งกระด้านตะวันออก
แอ่งเทอร์เชียรีในอ่าวไทยส่วนใหญ่เป็นแอ่ง ขนาดเล็ก ยกเว้นแอ่งหัวหิน แอ่งชุมพร แอ่งกระด้านตะวันตกและแอ่งปัตตานี ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร


2 ธรณีวิทยาบริเวณภาคตะวันตกตอนล่างและภาคใต้
      อ่าวไทยซึ่งติดต่อและอยู่ทางตะวันตกของทะเลจีนตอนใต้ เป็นแนวที่ต่อมาจากที่ราบภาคกลาง มีการสะสมตัวของชั้นตะกอนในสภาวะที่เป็นน้ำจืด ตั้งแต่สมัยโอลิโกซีนเป็นต้นมา ชั้นตะกอนหินหนาถึง 8,000 เมตร หรือกว่านั้น เพราะยังไม่มีการเจาะทะลุถึงชั้นล่างสุด นอกจากนั้นใต้บริเวณอ่าวไทยปรากฏค่าความร้อนจากใต้พิภพสูงกว่าปกติ
      จากการสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ และการเจาะสำรวจพบรอยเลื่อนในแนวเหนือใต้ ซึ่งเคลื่อนตัวตลอดเวลาในระหว่างการสะสมตัวของตะกอน มีการทรุด (rifting) ตั้งฉากกับแนวรอยเลื่อนปกติเหล่านี้ แต่เกี่ยวพันและสืบทอดมากับแนวจุดอ่อนของแนวเลื่อนเจดีย์สามองค์ (sinistral Three Pagoda Fault Zone) ซึ่งมีแนวตะวันตกเฉียงเหนือและมีกำเนิดมาตั้งแต่มหายุคมีโซโซอิก หลักฐานของการเกิดธรณีสัณฐานแบบแยก (extension tectonics) ซึ่งก่อให้เกิดอ่าวไทย เห็นได้จาก ฮอรสต์ และกราเบน (horst and graben) ตลอดทิวเขาภาคเหนือและตะวันตก ที่ราบภาคกลางและทางเหนือขึ้นไปอีกในประเทศพม่าและลาว เป็นต้น รอยเลื่อนเหล่านี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการยกตัวของภูเขาและพื้นที่ข้างเคียง และตามด้วยการยกตัวของหินควอเทอร์นารี ขึ้นมาอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจแสดงถึงการยกตัวอย่างรวดเร็วในยุคควอเทอร์นารี
      ในบริเวณอ่าวไทยประกอบด้วยแอ่งสะสมตัวของหิน ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปลายยุคครีเทเชียส-เทอร์เชียรี โดยมีการเลื่อนเป็นบล็อกในแนวเหนือใต้เนื่องจากอิทธิพลการเคลื่อนตัวของแผ่น เปลือกโลกอินเดียชนกับแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย เป็นเหตุให้แผ่นดินส่วนกลางของประเทศบริเวณอ่าวไทยเปิดกว้างมากขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่สมัยโอลิโกซีนเป็นต้นมา แอ่งเทอร์เชียรีในอ่าวไทยแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ส่วนตอนเหนือของอ่าวประกอบด้วยแอ่งปัตตานี (Pattani trough) ซึ่งเป็นแอ่งใหญ่สุด ลักษณะยาวรี วางตัวแนวเหนือ-ใต้ มีความกว้างประมาณ 70 กิโลเมตร และยาวประมาณ 400 กิโลเมตร มีชั้นหินยุคเทอร์เชียรีหนาประมาณ 8,000 เมตร วางตัวแบบรอยชั้นไม่ต่อเนื่องอยู่บนหินแกรนิตยุคครีเทเชียสและหินแปรมหายุค พาลีโอโซอิก โดยตะกอนที่สะสมตัวช่วงสมัยโอลิโกซีนนั้นเกิดในสภาวะที่เป็นทะเลสาบและช่วง สมัยไมโอซีนเกิดการสะสมตามทางน้ำและบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ แอ่งปัตตานีประกอบด้วยแอ่งย่อยหลายๆ แอ่ง อาทิ แอ่งเอราวัณ แอ่งปลาทอง แอ่งไพลินและแอ่งบรรพต เป็นต้น สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนใต้เป็นแอ่งมาเลย์เหนือซึ่งเป็นแอ่งเทอร์เชียรีขนาด ใหญ่ครอบคลุมพื้นที่เขตแดนไทยและทางตอนเหนือของมาเลเซีย ลักษณะของแอ่งเป็นรูปยาวรีวางตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ อยู่เยื้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแอ่งปัตตานี มีการสะสมตะกอนในสภาวะแวดล้อมเช่นเดียวกับแอ่งปัตตานี และมีความหนาถึง 8,000 เมตรเช่นกัน ประกอบด้วยแอ่งย่อยต่างๆ อาทิ แอ่ง บงกช แอ่งบุษบง และแอ่งต้นสักเป็นต้น อนึ่ง ทางด้านตะวันตกของอ่าวไทยใกล้จังหวัดชุมพรยังมีแอ่งเทอร์เชียรีขนาดย่อมอีก แห่งคือแอ่งชุมพร มีชั้นหินเทอร์เชียรีหนาประมาณ 4,000-5,000 เมตร แอ่งเทอร์เชียรีในอ่าวไทยเป็นแหล่งทรัพยากรก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบที่ สำคัญของประเทศ

Friday, July 9, 2010

แผ่นดินไหว เขย่าไต้หวัน ไม่มีสึนามิ

แผ่นดินไหว เขย่าไต้หวัน ไม่มีสึนามิ

Pic_94872





แผ่น ดินไหว 5.2 ริคเตอร์ ที่บริเวณนอกชายฝั่งไต้หวัน อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงไทเป ราว 90 กิโลเมตร แต่ ไม่มีการเตือนภัยสึนามิ....

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ วันที่ 9 ก.ค.ระบุ ศูนย์ธรณีวิทยาสหรัฐฯรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.2 ริคเตอร์ ที่บริเวณนอกชายฝั่งไต้หวันวันนี้ แต่ไม่มีการเตือนภัยสึนามิ
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.43 น. เช้าตรู่ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงไทเปราว 90 กิโลเมตร ทั้งนี้ เมื่อเดือน ก.ย.2542 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.6 ริคเตอร์ในไต้หวัน คร่าชีวิตประชาชนราว 2,400 คน นับเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไต้หวัน

เหมืองถ่านหิน จีนบึม คร่า6ศพเจ็บ34ราย

เหมืองถ่านหิน จีนบึม คร่า6ศพเจ็บ34ราย

Pic_94889
เกิดเหตุระเบิดที่เหมืองถ่านหินเฟิงหวงหลิง มณฑลเหอหนาน ทางภาคกลางของจีน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 34 ราย ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ...

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงาน เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ว่า เกิดเหตุระเบิดที่เหมืองถ่านหินเฟิงหวงหลิง ตำบลจานเหอ เมืองผิงติงซาน มณฑลเหอหนาน ทางภาคกลางของจีน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนและบาดเจ็บอีก 32 ราย ส่วนอีก 2 รายบาดเจ็บสาหัส

เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น  ห่างจากทางเข้าเหมืองราว 30 เมตร ก่อให้เกิดหลุมลึก 10 เมตร กว้าง 10 เมตร กระจกอาคารแตกละเอียดในระยะ 50 เมตร ส่วนหลังคาโกดังสิ้นค้าเปิดออกอันเนื่องมาจากแรงระเบิด เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณเคียง แต่โชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานทำงานอยู่ ขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย 12 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ และช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายแล้ว ส่วนสาเหตุของการระเบิดยังไม่ทราบแน่ชัด

อนึ่ง โรงงานในประเทศจีน เกิดอุบัติเหตุคร่าชีวิตคนงานหลายครั้ง อันเนื่องมาจากระบบความปลอดภัยต่ำกว่ามาตรฐาน เมื่อ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุเหมืองถ่านหินระเบิดในเมืองเดียวกัน ทำให้คนงานเสียชีวิตมากถึง 49 ศพ.